สโลไลฟ์ที่เมืองพร้าว ใกล้ถึงหน้าหนาวก็ต้องหาที่สวย ๆ แต่งชุดเก๋ ๆ สีสด ๆ ถ่ายภาพรูปคู่กันกับธรรมชาติ ถ้าคิดถึงสถานที่สวย ๆ ธรรมชาติที่สมบูรณ์ก็ต้องภาคเหนือ และถ้าคิดถึงภาคเหนือ ก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ ต้องเป็นเชียงใหม่อย่างแน่นอน จังหวัดเชียงใหม่มีอำเภอมากมาย และอำเภอหนึ่งที่ถือว่ายังไม่ได้เสียความเป็นอัตลักษณ์ไป
ยังคงใช้วิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ หรือที่ภาษาปัจจุบันเรียกว่า “สโลไลฟ์” อำเภอนี้คือ “พร้าว” พร้าวเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่รอบนอก และมีธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติที่ยังคงเป็นธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ยังดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันสวยงาม เช่นเดียวกับวัดห้วยบง
สโลไลฟ์ที่เมืองพร้าว เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่รอบนอก และมีธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์
วัดห้วยบงมีวิหารจีนที่สวยงาม ไม่ได้น้อยไปกว่าวิหารเซียน หรือเอนกกุศลศาลา ที่จังหวัดชลบุรี นักท่องเที่ยว และชาวเมืองพร้าว เรียกว่า “มหาวิหารจีน” ซึ่งสถาปัตยกรรมนี้เป็นศิลปะที่สืบถอดมาจากวัฒนธรรมจีน ภายในมหาวิหารมีรูปปั้นแกะสลัก และศิลปะ รวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อและคติแบบจีน
ในเมืองพร้าวยังมีวัดอีกหลาย ๆ วัด เช่นวัดป่าแก้วอัมพวันมีสะพานแขวนข้ามลำน้ำแม่งัด ซึ่งสะพานนี้เป็นสะพานที่ใช้ข้ามไปฝั่งวัด นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปแบบชิค ๆ และนั่งแบบชิว ๆ ด้วยเสื้อผ้าแบบเก๋ ๆ ตามสไตล์ในแบบปัจจุบัน และยังมีวัดที่พุทธศาสนิกชนชาวพร้าวเคารพนับถือ เพราะมีครูบาชื่อดังอย่าง หลวงปู่แหวนที่เคยมาจำวัด ณ “วัดดอยแม่ปั๋ง” แห่งนี้ นักท่องเที่ยวมักจะมาใช้ชีวิตสโลไลฟ์ และไหว้พระขอพรที่วัดแต่ละแห่งในเมืองพร้าวตลอดไม่ขาดสาย
เมื่ออิ่มบุญแล้วก็ต้องอิ่มท้องด้วย หนานแดง (คำว่าหนาน คนเหนือหรือคนเมืองจะใช้เรียกคนที่บวชเรียนและลาสิกขาออกมาแล้ว เหมือนที่คนภาคกลางเรียกว่า ทิด) ด้วยความชอบเนื้อกระบือในก๋วยเตี๋ยว และเพราะวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ
วิถีชีวิตแบบสโลไลฟ์ หนานแดงแห่งเมืองพร้าวจึงเปิดร้านนี้สนอง need ตัวเอง ด้วยราคาที่ไม่แพงแค่ถ้วยละ 30 บาทเท่านั้น แต่รสชาตินี่บอกได้เลยว่า “ลำแต๊ ๆ” หรืออร่อยมาก ๆ ด้วยเนื้อที่ใช้เพียงน้ำซุปราดลวกลงไปจึงทำให้เนื้อนุ่มและหวาน ส่วนเส้นที่ลวกก็สุกเด้งกำลังดี น้ำซุปที่หวานหอมและนัวมาก ๆ เข้ากันได้ดีมาก ๆ กับเนื้อและเส้นเช่นเดียวกัน ก็ต้องไปลองชิมกันแล้วว่าอร่อยเด็ดแค่ไหนที่เมืองพร้าว กับร้านเตี๋ยวควายหนานแดง
เมื่ออิ่มบุญ อิ่มท้องแล้วก็ต้องหาที่พัก ที่พักก็ต้องชิค ๆ สโลไลฟ์ สไตล์เมืองพร้าว ผู้เขียนจึงขอนำเสนอ พร้าว แค้มปป์ปิ้ง วิลเลจ ซึ่งจะมีทั้งห้องแบบพัดลม และแอร์ก็อาจจะต้องติดต่อไปที่เพจของทางแค้มป์ ส่วนเรื่องอาหารนั้นก็ไม่ต้องห่วงเพราะท่านสามารถสั่งได้โดยตรงเลยว่ามื้อเย็นอยากทานเป็นหมูกะทะปะทะลมหนาว
หรือว่าจะทานเป็นบาร์บีคิวรอบกองไฟ หรือว่าจะทานเป็นขันโตกแบบเมือง ๆ ก็สามารถสั่งได้ ส่วนตอนเช้าจะขึ้นไปทานบนชะง้อนผาใกล้ ๆ กับแค้มป์ ทางที่พักเองก็ยินดีที่จะเตรียมอาหารไว้ให้ หรือถ้าอยากจะไปสูดบรรยากาศที่ม่อนล้านก่อนก็ไม่ว่ากัน นี่แหล่ะสถานที่ท่องเที่ยวสโลไลฟ์ของอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
ฝากกดติดตามท่องเที่ยวไทย
สถานที่แนะนำหนาวนี้เก็บกระเป๋าไปพักใจที่ม่อนแจ่ม